คนร้ายยิงถล่มบ้านอดีตครูเกษียณ โชคดีไร้เจ็บ เป็นครั้ง ที่ 2 ในรอบ 2 เดือน

คนร้ายยิงถล่ม
87 / 100 SEO Score

คนร้ายยิงถล่มบ้านอดีตครูเกษียณ โชคดีไร้เจ็บ เป็นครั้ง ที่ 2 ในรอบ 2 เดือน

คนร้ายยิงถล่ม

คนร้ายยิงถล่มบ้านอดีตครูเกษียณ โชคดีไร้เจ็บ เป็นครั้ง ที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ตำรวจคาดสาเหตุเดิมกับครั้งที่แล้ว วันที่ 9 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่บ้านพักของครูเกษียณรายหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลพญาขัน อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง และตำรวจสืบสวนภูธรภาค9 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนางเอ (นามสมมติ) อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครู พบว่าบริเวณหน้าบ้าน บานหน้าต่าง และประตู มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนรวม 15 จุด ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5 มม. ตกในที่เกิดเหตุ จำนวน 15 ปลอก จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุงเข้าตรวจสอบเพิ่มเติม จากการสอบถามเจ้าของบ้านไม่เปิดเผยรายละเอียด บอกว่าทุกอย่างปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับการยิงบ้านอดีดครู ดังกล่าวเป็นการยิงบ้านเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน โดยครั้งแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 68 และในวันที่ 17 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง จับกุม 2 ผู้ต้องหาคดียิงถล่มบ้านอดีตข้าราชการครู ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง ผู้ต้องหาคือ นายชยุต อายุ 30 ปี และนายวุฒิชัย อายุ 30 ปี ถูกจับได้ในเขตตัวเมืองพัทลุง พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จากการสอบสวนในครั้งนั้น นายแก้วสารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่บ้านจริง ขณะนายเอ็มเป็นคนขับรถให้ โดยทั้งคู่ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อข่มขู่ลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งในธุรกิจผิดกฎหมาย ผู้ต้องหารับว่าอาวุธถูกนำมาวางไว้ให้ที่จุดนัด ก่อนจะลงมือก่อเหตุ และหลังยิงเสร็จได้ทิ้งปลอกกระสุนลงคลองน้ำใส เจ้าหน้าที่ประสานหน่วยกู้ภัยงมพบปลอกกระสุน 2 ปลอก ส่วนปืนผู้ก่อเหตุอ้างว่าทิ้งไว้ข้างทางแล้วมีคนเก็บไป ตำรวจได้คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ และแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, พยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ แต่ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามูลเหตุน่าจะยังเป็นเรื่องเดิม โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป